Keekihime (ケーキ姫, Kēkihime, เกิดวันที่ 20 กรกฎาคม 19951) เดิมใช้ชื่อว่า Keekihime Yuumi (ケーキ姫☆優海, Kēkihime Yūmi) เป็นสตรีมเมอร์ออนไลน์, ยูทูบเบอร์, นักร้อง และคอสเพลเยอร์ชาวออสเตรีย ในปี 2010 Keekihime เริ่มโพสต์วิดีโอเต้นโคฟเวอร์และไลฟ์สตรีมบนเว็บไซต์วิดีโอของญี่ปุ่น Niconico (ซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ Nico Nico Douga) เธอยังเคยเป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น Tone Jewel ตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2013 Keekihime เริ่มสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นหลังจากเล่นวิดีโอเกม Tales of Symphonia ซึ่งเธอได้รับเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ในช่วงเวลานั้นเธอยังเป็นแฟนอนิเมะและมังงะญี่ปุ่น โดยมังงะซีรีส์แรกที่เธออ่านคือ Minami-ke รวมถึงเป็นแฟนของนักร้องไอดอลญี่ปุ่น โดยเฉพาะ Hello! Project นอกจากนี้ Keekihime ยังเริ่มสนใจ Nico Nico Douga หลังจากดูวิดีโอเต้นโคฟเวอร์บนเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย.3 นอกเหนือจากภาษาเยอรมันซึ่งเป็นภาษาแม่แล้ว Keekihime ยังสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว,5 โดยเธอให้เครดิตความคล่องแคล่วภาษาญี่ปุ่นของตนมาจากการไลฟ์สตรีมบน Nico Nico Douga Keekihime ยังเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาเพื่อศึกษาภาษาละติน เมื่อเธออายุ 14 ปี Keekihime ได้โพสต์วิดีโอแรกของเธอลงบน Nico Nico Douga เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2010.3 ชื่อผู้ใช้ของเธอซึ่งมีความหมายว่า "เจ้าหญิงเค้ก" ในภาษาญี่ปุ่น มีที่มาจากความชื่นชอบเค้กของเธอและความปรารถนาที่อยากเป็นเจ้าหญิง.4 ต่อมาเธอได้โพสต์วิดีโอเต้นโคฟเวอร์เพิ่มเติมบนเว็บไซต์ รวมถึงไลฟ์สตรีมเป็นภาษาญี่ปุ่นเกือบทุกวัน.3 เธอกล่าวว่ามีผู้ชมประมาณ 1,000 ถึง 3,000 คนต่อการไลฟ์หนึ่งครั้ง และในขณะนั้นเธอเป็นสตรีมเมอร์ที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียวบน Nico Nico Douga Keekihime ระบุว่าเธอสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่วภายในหนึ่งปีจากการไลฟ์สตรีมทุกวัน เมื่ออายุ 15 ปี Keekihime สมัครเป็นนักร้องผ่านการออดิชันออนไลน์ที่จัดโดย Victor Entertainment และใช้เวลา 3 เดือนในญี่ปุ่นเพื่อฝึกฝน.7 ต่อมาเธอได้รับข้อเสนอให้เดบิวต์ร่วมกับเด็กผู้หญิงอีกสองคนในฐานะเกิร์ลกรุ๊ป Tone Jewel,7 ซึ่งได้รับการโปรโมตว่าเป็นสามสาวนักเรียนมัธยมปลาย "โอตาคุสายฮาร์ดคอร์".8 ก่อนการเดบิวต์อย่างเป็นทางการของวงเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2012,8 พวกเธอได้ออกอีพีอิสระก่อนเดบิวต์ชื่อ Sistars Trip ที่งาน Comiket 82 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2012 โดยภาพหน้าปกวาดโดย Keekihime เอง.9 Keekihime เป็นสมาชิกวงจนถึงสิ้นปี 2013 เมื่อเธอออกจากวงเนื่องจากปัญหาวีซ่าที่จำกัดการแสดงของเธอ.7 Keekihime ให้สัมภาษณ์กับ Arama! Japan ในปี 2014 ว่ามีแอนตี้ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งของเธอได้โน้มน้าวให้ต้นสังกัดยุติสัญญา และเธอไม่สามารถหางานอื่นในวงการบันเทิงได้.7 หลังจากกลับออสเตรีย Keekihime ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรม.5 ในช่วงเวลานั้นเธอยังคงไลฟ์สตรีมอย่างต่อเนื่อง และยังเริ่มปล่อยผลงานเพลงด้วยตนเองผ่าน TuneCore ในฐานะ net idol.6 อัลบั้มเดบิวต์เดี่ยวของเธอ Sweet Tooth วางจำหน่ายในปี 2018.6 นอกจากนี้เธอยังเริ่มคอสเพลย์ในงานต่าง ๆ เช่น Tokyo Game Show 2017,10 Comiket 94,11 และ Tokyo Game Show 2018.[12][13]14 ในปี 2020 Keekihime ระบุว่าเธอทำงานเป็นนักแปลให้กับบริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลของญี่ปุ่นชื่อ Classmethod.4 ต่อมาเธอกลายเป็นนักพากย์และคอสเพลเยอร์อย่างเป็นทางการของมาสคอตบริษัทชื่อ Mesoko ขณะเข้าร่วมงาน Comiket 104 ในฐานะคอสเพลเยอร์ในเดือนสิงหาคม 2024 ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่ง Keekihime อธิบายว่าเป็น "สตอล์กเกอร์มานานกว่า 5 ปี" ได้กอดรัดเธออย่างรุนแรงเป็นเวลานาน ผู้ก่อเหตุสามารถหลบหนีจากเจ้าหน้าที่งานคอนเวนชันได้ และตำรวจญี่ปุ่นได้แนะนำให้เธอติดต่อสถานทูตออสเตรีย.