ปัง!
โจวานนีขบกรามแน่น กำปั้นทุบลงบนโต๊ะทำงาน อีกมือหนึ่งรูดลงมาที่ใบหน้า เขากำลังจ้องกระดาษแผ่นตรงหน้าด้วยสายตาเดือดดาล เหี้ยเอ๊ย การได้เขียนความรู้สึกออกมามันทำให้ของพวกนี้ไหลออกมาจริง ๆ ด้วย
ความรู้สึกที่แม่งคงไม่โผล่มาด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้พ่อเวรของมึง พ่อที่ไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น มีไอ้ไม้ส้นตีนอะไรสักอย่างเสียบคาอยู่ในตูด แม่มึงก็พอกัน พวกเขามองโจวานนีเหมือนเขากำลังจะทำให้มึงเละเป็นขี้อะไรสักอย่าง เหมือนเขากำลังจะยัดยา ยัดเหล้าใส่ปากมึงจนกลืนไม่ทัน เชอะ
“เพ้อเจ้อฉิบหาย” เขาคำรามลอดไรฟัน ก่อนจะดันตัวเองเอนเก้าอี้ไปด้านหลัง ขาเก้าอี้ครูดกับพื้นไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด เขาลุกจากที่นั่ง เอามือลูบผมตัวเองเพื่อกล่อมความโกรธข้างใน ขณะเดินออกจากห้องมุ่งหน้าไปครัว ทั้งที่ท่าทางดูเหมือนนิ่ง ๆ สบาย ๆ… แต่ในหัวนี่ไม่ใกล้เคียงคำว่าสงบเลยสักนิด
ผู้ชายแบบเขาจะทนเรื่องพรรค์นี้ได้อีกนานแค่ไหน? คิ้วกระตุกเล็กน้อย เป็นสัญญาณเดียวที่บอกได้ว่าในใจเขากำลังปั่นป่วนสุด ๆ มึงโดนซัดน่วมก็แค่เพราะไอ้บ้านั่นมันเห็นแก่ตัว อยากกักมึงเอาไว้คนเดียว เขาโทษตัวเองไม่หยุด มือกำลูกบิดตู้เย็นแน่นแล้วกระชากออกแรงไปหน่อย จนขวดโหลข้างในสั่นกระทบกันกรุ๋งกริ๋ง
แม่งเอ๊ย ไอ้เวรตะไลน่าขยะแขยง! มาสร้างปัญหาเหี้ย ๆ ให้ความสัมพันธ์ของกูอยู่ได้ โจวานนีสบถในใจ มือคว้ากล่องน้ำผลไม้พันช์ทั้งกล่องขึ้นมา กรอกลงคอจากกล่องตรง ๆ ช่างแม่ง กูต้องไปเจอเขา ในที่สุดเขาก็สรุปกับตัวเองแบบนั้น ใช้หลังมือเช็ดน้ำผลไม้ที่เลอะตรงมุมปาก พาเขาออกไปไหนสักที่ อาจจะทุ่งโล่ง ๆ? หรือพาไปกินข้าว? กูแค่ต้องพาเขาออกมาจากบ้านเหี้ย ๆ นั่นสักพักก็ยังดี
โจวานนียัดกล่องน้ำผลไม้กลับเข้าตู้เย็นอย่างลวก ๆ แล้วรีบวิ่งกลับห้องไปเอากุญแจรถ ตอนนี้เพิ่งหัวค่ำเอง มึงต้องยังไม่นอนอยู่แล้ว ใช่ไหม? กูกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่าวะ? สุดท้ายกูก็แค่จะไปปาหินใส่หน้าต่างเขาอยู่ดี เขาคิดในใจตอนปีนขึ้นเบาะคนขับของรถเชฟวี่คาวาเลียร์พัง ๆ ของตัวเอง
ขับไปบ้านมึงใช้เวลาแค่ยี่สิบนาที พอให้เขาได้ใจเย็นลงบ้างระหว่างฟังเพลง ก็… เย็นพอที่จะคุยกับมึงได้โดยไม่หลุดพูดอะไรสุดโต่งเกินไปอย่างเช่น “ย้ายมาอยู่กับกู” หรือคำพูดบ้า ๆ ทำนองนั้น ไม่นานเขาก็ลงจากรถที่จอดชิดฟุตปาทหน้าทางรถเข้าบ้านมึง แล้วเดินไปยังจุดที่เขารู้ดีว่าคือหน้าต่างห้องนอนของมึง
จนกระทั่งจู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนใส่เขา ดังมาจากด้านหลัง… จากประตูหน้าบ้านนั่นแหละ เหี้ยล่ะ ดูท่าคุณพ่อที่แสนดีจะได้ยินเสียงรถแล้ว เขาด่าคำหยาบในลำคอ ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับแววตาเกรี้ยวกราดของพ่อมึง
“มึงมาทำเหี้ยอะไรบนสนามหญ้าบ้านกู ไอ้ตัวประหลาด?” พ่อของ ตะโกนใส่เขา ก้าวเท้าขึ้นมาบนชานบ้านเพื่อจะได้มองโจวานนีให้ชัดขึ้น
“กูก็ดูเหมือนคนคุ้ยขยะหรือโจรขโมยของตรงไหนวะ?” โจวานนีหัวเราะหยันในลำคอ เตรียมใจรับพายุขี้ที่กำลังจะถาโถมใส่ตัวเอง “กูมาหา ไง ไอ้เหี้ย จะให้กูมาทำเหี้ยอะไรที่นี่อีก?”
ให้ตายสิ… ตอนแรกน่าจะไปจอดรถไกล ๆ หน่อย เขาสบถด่าตัวเองในใจ จ้องเขม็งไปที่พ่อของ ซึ่งก็โต้กลับทันทีด้วยเสียงตะโกนเช่นกัน
“ไม่มีวัน! กูบอกมันแล้วให้อยู่ให้ห่าง ๆ จากตูดของมึง! มึงรักลูกกู มาาาก เหลือเกิน แต่ก็ยังเสือกโผล่มาอีก ทำให้กูต้องยิ่งอัดมันให้หนักกว่าเดิม”
เอาเถอะ… อย่างน้อยเสียงเอะอะทั้งหมดนี่ ก็น่าจะทำให้เขารู้ตัวบ้างแหละ…
- English (English)
- Spanish (español)
- Portuguese (português)
- Chinese (Simplified) (简体中文)
- Russian (русский)
- French (français)
- German (Deutsch)
- Arabic (العربية)
- Hindi (हिन्दी)
- Indonesian (Bahasa Indonesia)
- Turkish (Türkçe)
- Japanese (日本語)
- Italian (italiano)
- Polish (polski)
- Vietnamese (Tiếng Việt)
- Thai (ไทย)
- Khmer (ភាសាខ្មែរ)
